สรุปสั้น ๆ ก่อนอ่านยาว
- ตั้งแต่ มิถุนายน 2025 เป็นต้นไป ถ้าบัญชี Manager (MCC) ฝ่าฝืน Third-Party Policy บัญชีลูก (Individual) ทุกตัวที่ผูกอยู่จะถูก Pause พร้อมกัน
- วิธีแก้คือต้อง Unlink ออกจาก Manager ที่โดนผิดกฎ แล้วยื่นคำร้องให้ทีม Google Ads ปลดพัก
- เอเจนซี่ต้องเข้มงวดเรื่อง Compliance กว่าเดิม ไม่งั้นลูกค้าซวยตาม
- แบรนด์ที่ใช้หลายเอเจนซี่ควรรีบเช็กว่าแต่ละคนทำโฆษณาแบบไหน ลิงก์ไปหาใคร และใครเป็นแอดมินหลัก
- อย่าลืมทำ Advertiser / Business Verification ให้ครบ เพราะบัญชีที่ไม่ยืนยันตัวตนก็อาจโดนพักด้วยเหมือนกัน
1) อะไรคือ Manager Violations และทำไมมันแรงกว่าที่คิด?
บัญชี Manager หรือ MCC คือบัญชีแม่ที่ควบคุมบัญชีลูกหลายตัวพร้อมกัน เวลาเอเจนซี่รับดูแลลูกค้าหลายรายก็ใช้ MCC นี่แหละ ถ้า MCC โดนธงแดงจาก Google เพราะทำ Misrepresentation / Unfair Advantage / Circumventing Systems หรือแค่ไม่ผ่าน Third-Party Policy (เช่น รับค่าบริการแบบไม่โปร่งใส) บัญชีลูกทุกตัวที่ยัง “เชื่อมสายสะดือ” อยู่จะโดนพักอัตโนมัติทันที เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ เพราะ Google มองว่าความเสี่ยงถูกถ่ายทอดมาทางสายสัมพันธ์นั่นเอง
2) ขั้นตอนการแจ้งเตือนเป็นยังไง?
Google จะส่ง In-Account Notification ขึ้นเตือนในหน้า Overview พร้อมอีเมลหาเจ้าของบัญชีลูกว่า “บัญชีคุณถูกพักเพราะเชื่อมกับ Manager ที่ทำผิดกฎ” แล้วแนบลิงก์วิธี Unlink กับแบบฟอร์มอุทธรณ์ให้กดตาม ขั้นตอนชัดเจนพอสมควร แต่ต้องลงมือเร็ว เพราะโฆษณาจะหยุดเสิร์ฟทันที รายได้-ทราฟฟิกหยุดแบบเรียลไทม์ ไม่ได้รอ 3 วันเหมือนเคย
3) ผู้ลงโฆษณาต้องทำอะไรบ้าง?
- ตรวจสุขภาพเอเจนซี่ – ขอรายงานบทลงโทษย้อนหลัง ดูว่ามี Policy Violation ไหม
- แยกไข่คนละตะกร้า – ถ้าจำเป็นต้องใช้หลายเอเจนซี่ ให้แยก Manager กัน หรือสร้าง Sub-Manager เป็นโซนปลอดภัย
- ตั้งระดับ Admin ภายในองค์กรเพิ่ม เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะเข้าไป Unlink ได้ทัน
- เก็บ Log บทสนทนา / เอกสารสัญญาว่าใครรับผิดชอบค่าปรับ-ค่าเสียหาย ถ้าเอเจนซี่หลุด
- รีบทำ Verification ทั้งสองโปรแกรม (Advertiser + Business Operations) ให้ครบก่อนถึงกำหนด 30 วัน ไม่งั้นมีสิทธิโดน Pause ด้วยเหตุไม่ยืนยันตัวตนซ้ำเข้าไปอีก
4) เอเจนซี่ควรขยับยังไง?
- Internal Audit ทุกไตรมาส – เปิดเช็กแคมเปญหาคำต้องห้าม, Redirect แปลก ๆ, Malware, โฆษณาดิสเพลย์ที่ฝั่งลูกค้าไม่เห็น
- Compliance Playbook – เขียนคู่มือสั้น ๆ ส่งให้ทีมครีเอทีฟ/มีเดียอ่านว่าอะไรทำได้-ไม่ได้ เพื่อลดความผิดพลาด
- ย้อนดูใบแจ้งหนี้ – Google เริ่มโฟกัสเรื่อง “ค่าบริการแฝง” ถ้าเก็บค่า Ads Spend + ค่าธรรมเนียม เอาให้โปร่งใส
- ติด Tag Manager/Looker Studio – สร้าง Dashboard แจ้งเตือนการถูก Disapproved / Policy Flag แบบเรียลไทม์ จะได้แก้ก่อนโดนพัก
- ทำแผนสำรอง (Backup MCC) – เผื่อบัญชีหลักถูกพัก จะโยกบัญชีลูกเข้า MCC สำรองได้เร็ว ไม่เสียเวลาเปิดใหม่
5) กรณีศึกษา (สมมติ)
“ร้านรองเท้าวิ่ง SneakersPro จ้าง Agency A ดูแลโฆษณา ผ่านไป 3 เดือน Agency A ใช้แบนเนอร์ปลอมโลโก้ Nike เพื่อล่อคลิก ผลคือ MCC ของ Agency A โดนยิงธง Misrepresentation บัญชี Google Ads ของ SneakersPro (แม้จะไม่มีพฤติกรรมผิด) ถูก Pause ตามทันที ยอดขายวันนั้นหายไป 80% เพราะโฆษณายิงไม่ได้”
วิธีแก้คือล็อกอินบัญชี SneakersPro → Tools & Settings → Access & Security → Unlink MCC → กดส่งอุทธรณ์ (Appeal) รอทีม Google ปลดพัก (ปกติ 3-7 วันทำการถ้าไม่มีอะไรซับซ้อน) แล้วค่อยเชื่อมกับ Agency B ที่สะอาดกว่า
6) คำถามฮิต Q&A
Q: ใช้ MCC เดียวกันแต่ไม่แชร์วิธีชำระเงิน ยังโดนพักไหม?
A: โดน เพราะ Google สนสาย Manager Link ไม่ได้ดูที่บัตรเครดิตเป็นหลัก
Q: ถ้า Unlink แล้วทำไมโฆษณายังไม่วิ่ง?
A: ต้องกด “Reactivate” บนหน้า Account Overview ด้วย หรือรออีเมลยืนยันว่า Appeal ผ่านเรียบร้อย
Q: เอเจนซี่ที่โดนพักจะเปิด MCC ใหม่ได้ไหม?
A: ถ้าเป็น “Pause” ยังพออุทธรณ์ได้ แต่ถ้าโดน “Suspend” เพราะ Egregious Violation ทางเทคนิคคือโดนแบนถาวร เปิดใหม่ก็มีโอกาสโดนจับซ้ำ
7) สรุป
การอัปเดตครั้งนี้คือสัญญาณชัดว่า Google ต้องการยกระดับความปลอดภัยเชิงนิเวศโฆษณา ใครทำตัวไม่ดีจะไม่โดนเดี่ยว ๆ แต่ลากคนใกล้ชิดร่วงลงหลุมไปด้วย ดังนั้นทั้งฝั่งแบรนด์และเอเจนซี่ต้องยกระดับการตรวจสอบภายใน รู้กฎ เข้าใจนโยบาย และพร้อมแยกสายสัมพันธ์ทันทีที่เกิดปัญหา เพื่อไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงักจากการถูก “พัก” แบบไม่ทันตั้งตัว
Tip สุดท้าย – อย่า “โยนกุญแจ” MCC ให้ใครถือคนเดียว ตั้ง Admin หลายคน แบ่งระดับสิทธิ์ให้เหมาะสม และตั้ง Alert ผ่านอีเมลสำรองไว้เสมอ ถ้าระบบแจ้งเตือนตอนตี 2 อย่างน้อยยังมีคนตื่นมารับผิดชอบได้ทันท่วงที