ลงทุน (Investment)

ส่อง BTCUSD ให้ครบทุกมุม: 1H – 4H – 1D จับจังหวะ “เด้ง” กลางทางลงรอบใหญ่

ถ้าส่องกราฟ BTCUSD ช่วงนี้ เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามในใจว่า “ลงมาขนาดนี้แล้ว จะลงได้อีกเหรอ?” แต่ในทางกลับกันก็กลัวว่าถ้าใจร้อนเข้าตอนนี้เดี๋ยวจะเจอจังหวะทุบลงไปติดดอย บทความนี้เลยขออาสาพาไปแกะรอย Bitcoin แบบเจาะลึกที่ละไทม์เฟรม 1H / 4H / 1D เพื่อหาแนวรับแนวต้านที่เอาอยู่ พร้อมมองข่าวใหญ่จากฝั่ง สหรัฐ (US) และสถานการณ์ สงคราม–ภูมิรัฐศาสตร์ ที่เป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาด และปิดท้ายด้วยแนวทางการวางแผนที่ทำได้จริงสำหรับทั้งสายเทรด (เก็งกำไร) และสายถือระยะยาว

หมายเหตุ: เนื้อหานี้เป็นมุมมองการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุนเฉพาะบุคคล โปรดจัดการความเสี่ยงและรับผิดชอบพอร์ตการลงทุนของคุณเอง

นี่คือการปรับปรุงเนื้อหาสำหรับโพสต์บล็อกตามที่คุณต้องการ โดยใช้ภาษาที่เป็นกันเองและเพิ่มข้อมูลให้มีความลึกตามหลักการวิเคราะห์ครับ

1. ภาพใหญ่กราฟ Day (1D): ทิศทางหลักคือลง แต่แรงขายเริ่มหมด

เริ่มต้นจากภาพที่ใหญ่ที่สุดอย่างกราฟ 1D เราจะเห็นการเดินทางของ Bitcoin ที่เคยขึ้นไปยืนเหนือโซน 120K ก่อนจะเริ่มสร้างยอดและฐานที่ต่ำลงเรื่อย ๆ (ทำ Lower High และ Lower Low) จนปัจจุบันราคามาหยุดแกว่งใกล้ฐานสำคัญแถว 92–96K

สัญญาณที่ต้องจับตามองบนไทม์เฟรม Day คือ:

  • ไส้เทียนด้านล่างที่ยาวขึ้น: เมื่อราคาโดนกดลงมาโซน 92–94K จะเห็นว่ามีแรงสู้กลับเข้ามา ทำให้เกิด Long Lower Shadow ซึ่งบ่งชี้ว่ามีคนเริ่มสะสมของ หรือมีแรงต้านการลงที่จุดนี้
  • MACD และโมเมนตัม: เส้น MACD ยังคงอยู่ใต้เส้น 0 ซึ่งยืนยันว่า ขาลงยังคุมเกม แต่ฮิสโตแกรมสีแดงเริ่มสั้นลงอย่างชัดเจน ซึ่งแปลว่า โมเมนตัมของแรงขายกำลังอ่อนแอลง ไม่ได้ไหลแรงเหมือนช่วงก่อนหน้า
  • เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA): ราคาอยู่ใต้ทั้ง EMA20 / EMA50 ซึ่งเป็นสัญญาณลง แต่ระยะห่างระหว่างแท่งเทียนกับเส้น EMA เริ่มแคบลง จังหวะเทรนด์ลงชัด ๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นโหมด “ลงแบบแผ่ว ๆ” หรือ “พักตัว”

สรุป Day: BTC ยังคงอยู่ในขาลงหลัก แต่โซน 92–96K กำลังเป็นฐานวัดใจที่สำคัญที่สุด ถ้ายืนฐานนี้ได้ดี อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการพักตัวขนาดกลางหรือการรีบาวด์ที่น่าสนใจ แต่ถ้าหลุดต่ำกว่า 92K ด้วยแท่งเทียนขนาดใหญ่ ภาพจะเปลี่ยนกลับไปสู่โหมด “ลงหนัก” ทันที และมีโอกาสไปเช็กอินที่โซน 88–90K

2. กราฟ 4H: จาก Down Channel สู่โหมด Side-Way พักเหนื่อย

เมื่อย่อลงมาดูกราฟ 4H เราจะเห็นภาพการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนขึ้น โดยช่วงก่อนหน้า BTC เคลื่อนที่ในลักษณะ Down Channel หรือการลงแบบเป็นขั้นบันไดจากยอดแถว 110K แต่ในช่วงหลังสุด ราคาเริ่ม ไหลลงไม่ค่อยสุด แกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ บริเวณ 94–97K คล้ายกับการสร้างฐานระยะสั้นก่อนจะเลือกทาง

  • MACD 4H: แม้จะยังอยู่ในแดนลบ แต่แท่งแดงเริ่มหดตัว และเส้น MACD เริ่มมีมุมที่โค้งขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณคลาสสิกว่า แรงขายในระยะกลางเริ่มอ่อนแรงลงอย่างมีนัยสำคัญ
  • RSI (Relative Strength Index): RSI เริ่มไต่ระดับขึ้นจากโซน Oversold และแกว่งตัวอยู่เหนือระดับ 40 ซึ่งบอกว่าแรง Momentum ฝั่งซื้อเริ่มกลับเข้ามาบ้าง
  • ภาษาคน: “ขาลงมันเริ่มเหนื่อยแล้วนะ” มีโอกาสสูงที่จะมีแรง “ดีดกลับ” ขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนก่อน แต่ความแรงของการดีดจะพอไปชนแนวต้านสำคัญที่ 99–102K ได้หรือไม่ ต้องรอดู

3. กราฟ 1H: สนามประลองของสายเล่นรอบ – โฟกัส 94K-100K

กราฟ 1H คือภาพที่สายเก็งกำไรระยะสั้นใช้เป็นหลัก ก่อนหน้านี้ BTC หล่นจาก 104K ลงมา 93K แบบรวดเร็ว ทำให้ MACD 1H ติดลบยาว ๆ แต่ล่าสุดเมื่อราคาลงถึงโซน 93–94K แล้วมีการดีดกลับมาแถว 95–96K พร้อมกับการฟอร์มตัวของ MACD Histogram จากแดงเข้าหาเขียวอย่างรวดเร็ว

  • จังหวะรีบาวด์: ถ้าแรงดีดนี้สามารถพาให้ราคายืนเหนือ EMA20 / EMA50 บน 1H ได้ จะเป็นสัญญาณของการ รีบาวด์สั้น ๆ เพื่อไปหาแนวต้านสำคัญที่ 98–100K
  • กำแพงใหญ่: ถ้าขึ้นไปถึง 100K แล้วโดนแรงขายกดกลับลงมาชัดเจน นั่นคือการยืนยันว่าโซน 98–100K ยังคงเป็นกำแพงที่แข็งแกร่งมากของขาลง
  • สายเทรดสั้น: สนามหลักตอนนี้คือการ เล่นในกรอบ 94–100K โดยเน้นการกำหนดจุดเข้า-ออกที่แม่นยำจากแนวรับ–แนวต้านที่ใกล้ที่สุด

4. แนวรับ แนวต้าน และ Pivot Zone ที่ต้องจำให้ขึ้นใจ

เพื่อให้วางแผนได้อย่างเป็นระบบ ลองกำหนดโซนราคาสำคัญ ๆ ที่ใช้เป็นจุดตัดสินใจ (อ้างอิงจากการหารูปแบบราคาและ Fibonacci Retracement):

  • S3 (แนวรับสุดลึก): 88–90K – หากหลุดฐาน 92K อย่างมีนัยสำคัญ ตลาดจะไหลมาโซนนี้
  • S2 (แนวรับสำคัญ): 92–93K – Low ล่าสุดที่ห้ามหลุด ถ้าหลุดด้วยแท่งใหญ่คือสัญญาณอันตราย
  • S1 (แนวรับปัจจุบัน): 94–95K – ฐานที่ราคาพยายามยืนอยู่ในช่วงนี้
  • Pivot Zone หลัก (จุดเปลี่ยน): 96–98K – โซนนี้คือจุดกลางที่ตัดสินว่าตลาดกำลัง “เอียงลงต่อ” หรือ “เริ่มสู้” ถ้ายืนเหนือ 98K ได้ดี จะเป็นสัญญาณที่ดีมาก
  • R1 (แนวต้านแรก): 100–102K – เป็นทั้งตัวเลขกลม ๆ และเป็นบริเวณ Retracement 50% ของขาลงย่อย เป็นด่านแรกที่ต้องผ่าน
  • R2 (แนวต้านกลาง): 108–110K – แนวต้านสำคัญจากกราฟ 4H–1D ที่เคยมีการเทขาย
  • R3 (แนวต้านแข็ง): 114–115K – ใกล้เคียง Fib 61.8% ของขาลงใหญ่ และเป็นโซนที่เคยมีแรงเทขายหนักในอดีต

สิ่งที่ต้องโฟกัส: ตอนนี้ราคาอยู่ที่ S1–Pivot Zone ถ้าสามารถปีนขึ้นไปยืนเหนือ 100K ได้ ภาพจะเปลี่ยนจาก “ลงแล้วพัก” เป็น “พักเพื่อแกว่งขึ้น” แต่ถ้าราคาโดนทุบกลับลงมาหลุด 92K ให้เตรียมใจว่าขาลงรอบใหญ่ยังไม่จบง่าย ๆ

5. ปัจจัยภายนอก: ข่าว US – สงคราม คือ “ตัวป่วน” ที่คุมราคา

นอกจากกราฟเทคนิคแล้ว ปัจจัยภายนอกยังคงมีผลกระทบต่อ Bitcoin และตลาดคริปโตอย่างมาก:

  • ข่าวเศรษฐกิจสหรัฐ (USD): ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ๆ เช่น CPI (เงินเฟ้อ), Non-farm Payroll (การจ้างงาน), FOMC Minutes (รายงานประชุมเฟด) ยังคงเป็นตัวแปรหลักที่ชี้นำความแข็งแรงของ USD และส่งผลกระทบโดยตรงต่อสินทรัพย์เสี่ยง ช่วงค่ำ ๆ ไปจนถึงดึกของไทยจึงมักเป็นเวลาที่ราคา BTC เหวี่ยงรุนแรงที่สุด
  • ความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์ (สงคราม): เมื่อเกิดความตึงเครียดหรือความขัดแย้งในระดับโลก นักลงทุนจะหลีกหนีไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า (Safe Haven) เช่น ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ทองคำ ส่งผลให้เม็ดเงินบางส่วนไหลออกจากคริปโต ทำให้ BTC ผันผวนหนักและมีโอกาสลงแรงเมื่อมีข่าวร้ายเข้ามา
  • สภาพคล่องในตลาด: หลังมีการล้างพอร์ต Leverage ไปหลายรอบ สภาพคล่องในตลาด Future/Margin บางช่วงจะเบาบางกว่าปกติ ทำให้คำสั่งที่ขนาดไม่ใหญ่มากก็สามารถลากราคาให้ขยับได้แรงและรวดเร็ว นักเทรดควรระวังการใช้เลเวอเรจสูงในช่วงที่มีข่าว

สิ่งที่ควรทำ: ตรวจสอบ ปฏิทินข่าว (Economic Calendar) ก่อนเปิดออเดอร์เสมอ ถ้ามีประกาศตัวเลขใหญ่หรือสุนทรพจน์สำคัญกำลังจะมาในไม่กี่ชั่วโมง ควรพิจารณา ลดขนาดโพสิชั่น หรือรอให้ตลาดตอบรับกับข่าวก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ

6. ไอเดียแผนการเล่น (เน้นการศึกษาและจัดการความเสี่ยง)

การมีแผนที่ชัดเจนคือหัวใจสำคัญในตลาดที่ผันผวนเช่นนี้:

  • สายเทรดสั้น (Day/Scalping): โฟกัสการเล่นในกรอบ 94–100K เป็นหลัก
    • จังหวะรับ: โซน 94–95K คือจุดเฝ้าดูพฤติกรรมราคา เพื่อลุ้นเล่นเด้งสั้นไปยังแนวต้านถัดไป
    • จังหวะออก: โซน 99–102K คือจุดจับตาแรงกด ถ้าเห็นสัญญาณกลับตัวลง ให้เตรียมออกหรือ Short สวน (ถ้ามีแผน)
  • สายสวิงเทรด (Swing Trade): รอความชัดเจนจากกราฟ 4H
    • ลุ้นขึ้น: รอยืนยันการยืนเหนือ 100K ด้วยแท่งเทียนที่แข็งแรงหลายแท่ง ก่อนจะพิจารณาเปิดโพสิชั่นตาม
    • ลุ้นลง: ถ้าหลุด 92K แบบปิดแท่งใหญ่ (โดยเฉพาะแท่ง 4H หรือ Day) นั่นคือสัญญาณที่ชัดเจนว่าขาลงกลับมา
  • กฏเหล็ก: Stop Loss (SL) ต้องมาก่อนเสมอ กำหนดจุดยอมแพ้ที่ยอมรับได้ไว้ในใจ แล้วเคารพแผนของตัวเองอย่างเคร่งครัด

อย่าลืมว่า “การอยู่เฉย ๆ” ในช่วงที่ตลาดไม่เป็นใจ หรือกำลังเหวี่ยงหาทิศทาง คือการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุด อย่างหนึ่งได้เช่นกัน

7. บทสรุปสั้น ๆ

BTC กำลังอยู่ในสถานการณ์ “พักตัว” หรือ “ลุ้นรีบาวด์” กลางทางของขาลงใหญ่ โซน 92–96K คือสมรภูมิหลักที่ตลาดกำลังวัดใจกันอยู่ ถ้าฐานนี้เอาอยู่ จะมีโอกาสวิ่งกลับไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 100K แต่ถ้าฐานนี้พัง ภาพใหญ่จะกลับไปเข้าสู่โหมดลงรอบใหม่

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่การเดาว่าราคาจะไปทางไหน แต่คือ การจัดการความเสี่ยง (Risk Management) วางแผนให้ชัดเจนว่าจุดเข้า-ออกอยู่ตรงไหน และเราสามารถรับการแกว่งของตลาดได้มากน้อยเพียงใด แล้วเดินตามแผนนั้นอย่างมีวินัย

FAQ: คำถามที่พบบ่อย (Q&A)

Q1: ตอนนี้ BTC ถือว่าอยู่ในขาขึ้นหรือขาลงกันแน่? A: ถ้าดูจากภาพรวมใหญ่ (กราฟ Day และ 4H) โครงสร้างหลักยังถือว่าอยู่ใน ขาลง ครับ เพราะราคายังสร้างยอดที่ต่ำลงเรื่อย ๆ แต่ในระยะสั้นมาก ๆ (1H–4H) กำลังมีสัญญาณ พักตัว และลุ้น รีบาวด์สั้น ๆ จากฐาน 92–96K ดังนั้นสถานการณ์คือ “ขาลงที่กำลังพักหายใจ” มากกว่า

Q2: ถ้าพลาดจังหวะดี ๆ ไปแล้ว ควรจะไล่ราคา (FOMO) เข้าไปเลยไหม? A: ไม่ควรไล่ราคาเด็ดขาดครับ! ถ้าจังหวะที่เราตั้งใจผ่านไปแล้ว วิธีที่ปลอดภัยกว่าคือการถอยออกมาดูกราฟใหม่ แล้ว ตั้งโซนที่เราพอใจจะเข้า/ออกให้ชัดเจน รอให้ราคาเคลื่อนที่กลับมาหาจุดที่เรากำหนดไว้เอง การเทรดที่ปลอดภัยไม่จำเป็นต้องมีออเดอร์ตลอดเวลา แค่รอจังหวะที่ได้เปรียบก็พอแล้ว

Q3: เลเวอเรจสูง ๆ เหมาะกับการเทรดในช่วงที่ตลาดเหวี่ยงแรงแบบนี้ไหม? A: ไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ ช่วงที่ตลาดเหวี่ยงแรงจากข่าว US หรือ สงคราม เลเวอเรจสูง ๆ จะยิ่งทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณและอาจทำให้ถูก Liquidation ได้ง่ายมาก ถ้าจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ควรใช้ในขนาดที่เล็กมาก ๆ เมื่อเทียบกับขนาดพอร์ต และต้องตั้ง Stop Loss ที่แคบและชัดเจน สำหรับมือใหม่ แนะนำให้ใช้เลเวอเรจต่ำ หรือเทรดด้วยบัญชีปกติ (Spot) จะสบายใจกว่ามากครับ

Leave a Reply