หลายเดือนที่ผ่านมา เราเห็น AI search โตแรงมาก ทั้ง Claude, Perplexity, Grok, Google AI Overviews ฯลฯ แต่พอมาดู “ทราฟฟิกจริง” และ “ยอดแปลงจริง” ภาพที่ออกมากลับชัดเจนว่า AI ยังเป็นช่องทางไว้ “หาข้อมูล” มากกว่าจะพาคลิกเข้าเว็บหรือปิดยอด ในขณะที่ Organic search จากเสิร์ชเอนจินดั้งเดิมยังเป็นตัวทำผลงานหลักให้ธุรกิจส่วนใหญ่แบบกินขาดอยู่ดี
ตัวเลขที่ต้องรู้ (และควรเอาไปคุยกับทีม/ลูกค้า)
- ข้อมูลล่าสุดจาก BrightEdge ชี้ว่า “สัดส่วนทราฟฟิกอ้างอิง (referrals) จาก AI search ตั้งแต่เดือนม.ค.–ส.ค. 2025 มีไม่ถึง 1%” ในขณะที่ Organic search ยังเป็นตัวขับหลักของ conversion เกือบทุกอุตสาหกรรม
- แม้การใช้งาน AI search จะเติบโตเป็นเลขสอง–สามหลักรายเดือนในบางแพลตฟอร์ม แต่การเติบโตนั้นยัง “ไม่แปลเป็นทราฟฟิกและยอดขาย” เท่าที่คาดหวังไว้ (สะท้อนว่า AI search ยังอยู่ในเฟส research มากกว่า transact)
- ทราฟฟิกจาก AI ส่วนใหญ่เกิดบนเดสก์ท็อป (ราว 90% สำหรับหลายเครื่องมือ) ขณะที่มือถือยังไม่ใช่แรงขับหลัก ชี้ว่าพฤติกรรมการใช้ AI เพื่อค้นหายัง “จริงจัง-นาน-อยู่กับคีย์บอร์ด” มากกว่าการค้นหาแบบเร็วๆ บนมือถือ
- ด้านเทรนด์รายแพลตฟอร์มมีขึ้นมีลง: บางเจ้าโตแรงบางเดือน บางเจ้าชะลอลง ตอกย้ำว่า “ยังไม่เสถียร” และยากจะเอามาเป็นช่องทางหลักแบบวางเป้า KPI หนักๆ ตั้งแต่วันนี้
- สรุปจากงานศึกษาหลายชุด: Organic ยังครองทั้งทราฟฟิกและ conversion share โดย LLM/AI traffic ยังน้อยมาก มีเพียงบางไซต์เฉพาะกลุ่มที่เริ่มเห็นสัดส่วนการแปลงจาก AI มากขึ้น (เป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่ภาพรวม)
แล้วทำไม AI search ถึงยังไม่พาทราฟฟิก/ยอดขาย?
- Zero/Low-click answers – ผู้ใช้ได้คำตอบในหน้า AI เลย ไม่ต้องคลิกเข้าเว็บ
- UX ที่ยังทดลอง – บางแพลตฟอร์มวางลิงก์อ้างอิงไม่เด่น หรือผู้ใช้ยังไม่คุ้นกับการกดแหล่งอ้างอิง
- การวัดผลยาก – หลายครั้ง referrer ไม่ถูกส่ง, ถูกจัดกลุ่มเป็น Direct/Unassigned ใน GA4 ทำให้ “ทราฟฟิกจาก AI” ดูต่ำกว่าความจริง
- เจตนาใช้งาน (Intent) – ผู้ใช้พึ่ง AI ตอน “สำรวจ/ตั้งโจทย์” มากกว่าตอน “ตัดสินใจจ่ายเงิน” ซึ่งยังเป็นบทของ Organic/Paid/Direct/Email อยู่
กลยุทธ์ที่เวิร์กตอนนี้: “ปรับตัวรับ AI + ดับเบิลดาวน์ Organic”
แทนที่จะเลือกข้าง เราควร “ทำทั้งคู่ แต่ให้น้ำหนักกับ Organic เป็นหลัก” เพราะเป็นแหล่งที่พิสูจน์แล้วว่าทำยอดจริง พร้อมๆ กับเตรียมตัวให้งานคอนเทนต์เรา “อ่านง่ายสำหรับ AI” เพื่อรับโอกาสในอนาคต
1) เสริมฐาน Organic ให้แน่น (สิ่งที่ทำแล้วเห็นผลชัด)
- E-E-A-T / Entity-First SEO: วางโครงสร้างหมวด–หัวข้อ–คอนเทนต์ให้ครอบคลุมประเด็นหลักของแบรนด์/สินค้า เชื่อมโยงภายใน (internal links) แบบมีตรรกะ สร้าง topical authority
- Technical SEO & CWV: ความเร็ว, LCP/INP, โครงสร้างหัวข้อ, canonical, hreflang (ถ้ามีหลายภาษา)
- Schema/structured data: FAQ, HowTo, Product, Review, Organization/Person เพื่อช่วยทั้งเสิร์ชดั้งเดิมและระบบสรุปผลด้วย AI เข้าใจบริบทเราเร็วขึ้น
- อัปเดตคอนเทนต์หัวใจ (Money Pages): เพิ่มหลักฐาน, ตัวอย่างใช้จริง, ตารางเปรียบเทียบ, ราคา/แพ็กเกจ, รูป/วิดีโอสั้นที่ตอบ intent ลึกขึ้น (เพราะส่วนนี้คือจุดที่ปิดยอด)
2) Generative Engine Optimization (GEO) แบบไม่หลงไฮป์
- สรุปคำตอบแบบ Q&A / Bullet สั้นชัด ตอนต้นบทความ แล้วค่อยขยายความ (ทำให้ AI และคนอ่านเก็บใจความไว)
- ใส่ สถิติ/ตัวเลข/คำนิยาม ที่ตรวจสอบแหล่งอ้างอิงได้ เพื่อเพิ่มโอกาสถูกดึงไปอ้าง (พร้อมเครดิตกลับมา) – และย้ำว่าตัวเลขหลักๆ ตอนนี้คือ AI referrals <1% ช่วง ม.ค.–ส.ค. 2025 จาก BrightEdge และ Organic ยังนำ conversion share อยู่จริง
- ทำ ภาพ/ตารางสรุป ที่อธิบายความต่างระหว่าง “ช่องทางสำหรับ Research vs Convert” เพื่อให้สื่อและผู้ใช้หยิบไปใช้ง่ายๆ (โอกาสลิงก์กลับเพิ่ม)
3) วัดผล “ทราฟฟิกจาก AI” ให้เป็นรูปธรรม
- ตั้ง Custom channel grouping ใน GA4 สำหรับ AI/LLM (เช่น จับ referrer ที่มีโดเมนของแพลตฟอร์ม AI หรือใช้แคมเปญ/UTM กรณีเราแนบลิงก์กลับจากโปรไฟล์/คำตอบ)
- ตรวจ server logs/Cloudflare เพื่อดูสัดส่วน crawl-to-refer ของบอต AI ว่ากินคอนเทนต์เราเท่าไร ส่งคนกลับมาน้อยแค่ไหน ช่วยคุยกับทีมผู้บริหาร/กฎหมายเรื่องนโยบาย robots/ACL ได้มีข้อมูลมากขึ้น
- ใช้ Assisted conversions/Path analysis ใน GA4 เพราะหลายเคสผู้ใช้เริ่มที่ AI แต่ไปหาชื่อแบรนด์เราบนเสิร์ชก่อนคอนเวิร์ต (จะไปโผล่ใน Organic/Direct)
4) แผน 30–60–90 วัน (ทำจริงแบบไม่ฝัน)
- 30 วัน: Audit คีย์เวิร์ดเชิงรายได้/Intent สูง → อัปเดต 10–20 หน้าเงิน, เพิ่ม schema, ทำตาราง/FAQ, ปรับ Core Web Vitals
- 60 วัน: ทำบทความ Pillar + Cluster ใหญ่ 2–3 ชุด, ทำวิดีโอสั้นประกบ (รีล/ช็อต) ฝังในหน้า, สร้าง internal link map
- 90 วัน: ลอง “AI-ready snippets” (บทสรุป/คำตอบ 100–150 คำต้นเรื่อง), ตั้ง channel grouping + report สำหรับ AI, รัน A/B ของหัวข้อ/อินโฟบ็อกซ์
5) สำหรับอีคอมเมิร์ซ/Local
- ผูก Merchant Center + ฟีดข้อมูล ให้สะอาด, หน้าสินค้ามีข้อมูลครบ (ราคา/สต็อก/รีวิว/การคืนสินค้า)
- Local SEO: โปรไฟล์ธุรกิจ, หมวดหมู่, รูปภาพจริง, คำถาม–คำตอบในโปรไฟล์, หน้าสาขาแบบมี schema
KPI/แดชบอร์ดที่ควรมี
- Organic Sessions, Organic CVR, Revenue/Lead จาก Organic
- Share of Sessions/Conversions จาก Organic เทียบช่องทางอื่น (รายสัปดาห์/รายเดือน)
- AI/LLM Sessions (ทดลองวัด), Assisted Conversions ที่มีเส้นทางแตะช่องทาง AI/LLM
- Crawl-to-Refer ratio ของบอต AI รายเจ้า (ใช้ log/Cloudflare Radar) เพื่อดู “ค่าเสียโอกาส” ที่คอนเทนต์ถูกอ่านแต่ไม่คืนทราฟฟิก
บทสรุป: Organic คือเครื่องจักรทำยอด ส่วน AI คือเวทีทดลอง–ขยายการค้นพบ
ข้อมูลล่าสุดบอกชัดว่า AI search ยังส่งทราฟฟิก “ต่ำกว่า 1%” และยังไม่ใช่ตัวปิดยอดหลักของธุรกิจส่วนใหญ่ ณ ตอนนี้ ขณะที่ Organic search ยังทำทั้งทราฟฟิกและ conversion แบบเสถียรที่สุด นักการตลาดที่ชนะในปี 2025–2026 จึงไม่ใช่คนที่ทุ่มทุกอย่างให้กับ AI แต่คือคนที่ “เตรียมคอนเทนต์ให้พร้อมสำหรับโลกที่มี AI” ไปพร้อมๆ กับ “เร่งเครื่อง SEO แบบมีวินัย” ในหน้าเงิน โครงสร้างเว็บไซต์ ประสบการณ์ผู้ใช้ และการวัดผลที่แม่นขึ้น เท่านี้คุณก็อยู่ฝั่งที่ชนะทั้งวันนี้และพรุ่งนี้แล้ว
Organic ยังเป็นแหล่งทำยอดจริง ในขณะที่ AI search โตเร็วแต่ยังไม่ส่งทราฟฟิก/ยอดขายตามคาด—ข้อมูลจาก BrightEdge ช่วงม.ค.–ส.ค. 2025 ระบุว่า AI referrals ยังไม่ถึง 1% และงานศึกษาอื่นๆ ก็ยืนยันว่า Organic ครองทั้งทราฟฟิกและ conversion จึงควรวางแผน “รับ AI” พร้อม “ดับเบิลดาวน์ Organic”: เสริม E-E-A-T, ทำ schema, อัปเดตหน้าเงิน, ทำสรุปแบบ Q&A ให้ AI หยิบไปอ้าง, ตั้งการวัดผล AI/LLM ใน GA4, และติดตาม crawl-to-refer ของบอตเพื่อจัดลำดับความสำคัญได้ตรงจุด
Organic ยังเป็นหัวใจของทราฟฟิกและยอดแปลง ขณะที่ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า “AI search ส่งทราฟฟิกน้อยกว่า 1%” ในช่วงม.ค.–ส.ค. 2025 (BrightEdge) และแม้ AI จะโตเร็วแต่ยังทำหน้าที่เหมือนช่องทาง “รีเสิร์ช” มากกว่าปิดยอด นักการตลาดควรโฟกัสที่การยกระดับ SEO ฐานเดิม (E-E-A-T, Schema, Core Web Vitals, อัปเดตหน้าเงิน) พร้อมปรับคอนเทนต์ให้ AI เข้าใจง่าย (Q&A/Bullet/ตาราง) และตั้งระบบวัดผล AI/LLM ใน GA4 รวมถึงติดตาม crawl-to-refer เพื่อประเมินผลตอบแทนจากการถูกบอตอ่านคอนเทนต์ ทั้งหมดนี้จะช่วย “รับโอกาสจาก AI” โดยไม่ทิ้ง “ยอดจริงจาก Organic” ที่ยังครอง conversion share อยู่ตอนนี้
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.