•
สรุปสั้น ๆ ก่อนอ่านยาว 1) อะไรคือ Manager Violations และทำไมมันแรงกว่าที่คิด? บัญชี Manager หรือ MCC คือบัญชีแม่ที่ควบคุมบัญชีลูกหลายตัวพร้อมกัน เวลาเอเจนซี่รับดูแลลูกค้าหลายรายก็ใช้ MCC นี่แหละ ถ้า MCC โดนธงแดงจาก Google เพราะทำ Misrepresentation / Unfair Advantage / Circumventing Systems หรือแค่ไม่ผ่าน Third-Party Policy (เช่น รับค่าบริการแบบไม่โปร่งใส) บัญชีลูกทุกตัวที่ยัง “เชื่อมสายสะดือ” อยู่จะโดนพักอัตโนมัติทันที เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ เพราะ Google มองว่าความเสี่ยงถูกถ่ายทอดมาทางสายสัมพันธ์นั่นเอง 2) ขั้นตอนการแจ้งเตือนเป็นยังไง? Google จะส่ง In-Account Notification ขึ้นเตือนในหน้า Overview พร้อมอีเมลหาเจ้าของบัญชีลูกว่า “บัญชีคุณถูกพักเพราะเชื่อมกับ Manager ที่ทำผิดกฎ” แล้วแนบลิงก์วิธี…
•
ถ้าใครกำลังลงโฆษณา Google Ads, Microsoft Ads หรือทำ SEO แล้วเจอคำถามเดิม ๆ ว่า “ทำไม CTR ยังไม่กระดิก” หรือ “ทำไมคอนเวอร์ชันยังไม่ถึงเป้า” คำตอบสั้น ๆ คือ—เราอาจยัง “ลองผิด-ลองถูก” ไม่เป็นระบบพอ! A/B Testing คือกระบวนการทดสอบที่เอาเวอร์ชัน A ไปชนกับเวอร์ชัน B แล้วใช้สถิติมาตัดสินว่าตัวไหนชนะ หลักคิดดูง่ายแต่ถ้าทำมักกะโรนีไปเรื่อย ๆ ก็จะได้แค่ “เดาเก่ง” ไม่ใช่ “ตัดสินใจจากข้อมูล” A/B Testing สำคัญกับ Search Marketing ยังไง สูตร 7 สเต็ป เทสต์ให้เวิร์ก ไอเดีย A/B Test ที่ทำได้ทันที เคสตัวอย่างสั้น ๆ ตัวแปร เวอร์ชัน A เวอร์ชัน B…
•
AI Max คือฟีเจอร์ใหม่ในแคมเปญ Search ของ Google Ads ที่กูเกิลโฆษณาว่า “กดครั้งเดียวก็ได้พลัง AI เต็มสูบ” – ช่วยขยายคีย์เวิร์ดให้กว้างขึ้น สร้างโฆษณา–เลือกหน้าแลนดิ้งเพจให้อัตโนมัติ และปรับบิดดิ้งตามเป้าหมายแบบเรียลไทม์ ตอนนี้เปิดเบต้าให้ทุกบัญชีทั่วโลกตั้งแต่พฤษภาคม 2025 เป็นต้นมา กูเกิลอ้างว่าผู้ลงโฆษณาที่เปิด AI Max จะเห็นคอนเวอร์ชันเพิ่มเฉลี่ย 14 % โดยไม่ต้องเพิ่ม CPA/ROAS เลย ถ้าแคมเปญคุณยังเน้นคีย์เวิร์ด exact/phrase อยู่ การอัปเกรดอาจดันยอดได้สูงถึง 27 % เลยทีเดียว AI Max ต่างจาก Performance Max ยังไง? ของที่ได้เมื่อเปิด AI Max ฟีเจอร์ ทำอะไรให้เรา เปิด/ปิดได้ Search Term Matching ใช้ broad + keyword-less คาดเดาคำค้นใหม่…
•
Google Performance Max กลายเป็นหัวข้อร้อนแรงในวงการการตลาดออนไลน์อีกครั้ง หลังจากการอัปเดตกฎใหม่เกี่ยวกับการวาง Placement ที่ทำให้นักการตลาดหลายคนปวดหัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการใช้งานผ่าน API ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการจัดการแคมเปญแบบอัตโนมัติ ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นคือการที่ Google ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขหรือกฎการวาง Placement ของโฆษณาในแคมเปญ Performance Max นักการตลาดบางคนพบว่าโฆษณาถูกแสดงในพื้นที่ที่ไม่ได้ตั้งใจ เช่น เว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย หรือช่องทางที่มีคุณภาพต่ำ ทำให้เสียเงินโฆษณาไปโดยไม่เกิดประโยชน์ การใช้ API และข้อจำกัดที่ตามมาหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดความสับสนคือตัว API ที่ควบคุมแคมเปญ Performance Max โดยนักพัฒนาพบว่า API ไม่สามารถกำหนดเงื่อนไขการแสดงผลได้ละเอียดเพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อการควบคุม Placement ของโฆษณา ตัวอย่างเช่น นักการตลาดต้องการให้โฆษณาปรากฏเฉพาะในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตน แต่ API ของ Performance Max ไม่สามารถกรองเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการได้อย่างแม่นยำ ทำให้โฆษณาถูกแสดงในพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้อง ข้อแนะนำสำหรับนักการตลาด ผลกระทบต่อธุรกิจความสับสนในเรื่องนี้ทำให้นักการตลาดเสียเวลาและงบประมาณไปกับการแก้ปัญหา ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้ธุรกิจขนาดเล็กถึงกลางสูญเสียความไว้วางใจในแพลตฟอร์ม Google Ads ในขณะที่ Performance Max ยังคงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ…