ช่วงนี้คนเล่นคริปโตแทบทุกคนต้องกดดูกราฟ Bitcoin ทุกวัน เพราะราคา BTCUSD แกว่งแรงต่อเนื่องจากจุดสูงสุดเดิมลงมาเยอะมาก จนหลายคนเริ่มถามว่า “นี่มันจบรอบหรือยัง” หรือแค่พักใหญ่ก่อนวิ่งรอบใหม่เท่านั้น การแกว่งตัวครั้งนี้ทำให้ตลาดกลับมาตื่นเต้นและเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับคนที่วางแผนดี ๆ
มองภาพรวมผ่าน 3 ไทม์เฟรมหลัก คือ 1D, 4H, และ 1H จะเห็นภาพชัดเจนเลยว่า โซนราคา 80,000–90,000 คือสนามรบหลักที่ทั้งฝั่งกระทิงและฝั่งหมีกำลังแย่งชิงอำนาจกันอยู่ และผลของเกมรอบนี้จะเป็นตัวกำหนดชะตา Bitcoin ว่าจะ “เด้งกลับไปสู้” หรือจะ “ไหลยาวลงไปอีกยก”
1. ภาพรวมเทรนด์ BTC ตอนนี้ (1D, 4H, 1H)
TF 1D – ขาลงชัด ๆ แต่เริ่มเข้าโซนล้า
- โครงสร้างราคา: ยังคงเป็น Lower High – Lower Low อย่างต่อเนื่อง บอกว่าเทรนด์ใหญ่ยังอยู่กับฝั่งหมี
- แท่งเทียน: หลายวันหลังสุดแท่งเทียนปิดอยู่ในโซนล่างของกรอบ แปลว่าแรงกดจากด้านบนยังทำงานได้ดี
- EMA: ราคาอยู่ต่ำกว่าเส้น EMA หลัก (เช่น EMA50 และ EMA200) แสดงว่าขาขึ้นรอบก่อนถูกทำลายไปหมดแล้ว
- MACD: ขีดแดงยาวมาต่อเนื่อง แต่เริ่มมีสัญญาณ “แบน” บ้างเล็กน้อย นี่เป็นจุดที่ต้องจับตา เพราะมันแปลว่าแรงลงเริ่มชะลอและไม่ได้พุ่งแรงเหมือนช่วงแรก ๆ
- RSI: อยู่แถวโซนต่ำใกล้ Oversold บอกว่าตลาดเริ่มเอนไปทางมีโอกาสเด้งพักได้ง่ายขึ้น เพราะคนเทขายไปเยอะแล้ว
TF 4H – ขาลงต่อเนื่องในช่องทางลง (Down Channel)
- การเคลื่อนไหว: ราคาไหลลงทีละขั้น มีการดีดกลับสั้น ๆ แต่ก็โดนแรงเทขายกดซ้ำจนราคาไม่สามารถยืนอยู่ได้
- EMA: เส้น EMA ระยะกลางยังทำหน้าที่เหมือน “หลังคา” เวลาที่ราคาเด้งขึ้นไปชนมักจะโดนกดกลับลงมา เป็นสัญญาณว่าเทรนด์ยังไม่ได้เปลี่ยน
- MACD: ยังแดงอยู่ แต่ความชันไม่ชันเท่าช่วงแรก ๆ บ่งบอกถึงจังหวะพักตัวหรือชะลอความเร็วในเทรนด์ลง
TF 1H – ช่วงพักหายใจของราคา
- การแกว่งตัว: หลังจากดิ่งลงไปทำ Low แถว 80,000–81,000 แล้ว ราคาก็ดีดกลับมาแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ แถว 83,000–85,000 เหมือนกำลังรอทิศทางใหม่
- MACD: เส้นสั้นเริ่มหดตัวจากโซนแดง กลายเป็นลักษณะ Sideway มากขึ้น ไม่ได้มีแรงโมเมนตัมพุ่งไปทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน
- RSI: ขึ้นมาอยู่โซน 40–50 ซึ่งเป็นโซนกลาง ๆ ไม่ได้ต่ำแบบ Oversold จัดเหมือนตอนที่ราคาทิ้งดิ่งลงมา
สรุปภาพรวมง่าย ๆ:
ภาพใหญ่ยังเป็นขาลง แต่ไทม์เฟรมเล็กเริ่มแสดงอาการพักตัว นี่คือสัญญาณที่บอกว่าตลาดอาจกำลังเตรียมตัว “เด้งสั้น ๆ” หรือ “แกว่งออกข้าง” ก่อนจะเลือกทิศทางครั้งใหม่ ดังนั้นเทรดเดอร์ระยะสั้นต้องระวังการเหวี่ยงหลอกในช่วงนี้
2. ตารางสรุปเทรนด์และโมเมนตัม
| TF | แนวโน้ม | สถานะราคาเทียบ EMA | MACD & RSI | ความหมายหลัก |
| 1D | ขาลง | ต่ำกว่า EMA50/200 | MACD แดง, RSI ต่ำ | ขาลงใหญ่ยังคุมเกม แต่เริ่มเข้าโซนล้า |
| 4H | ขาลง | ราคาเด้งไม่ผ่าน EMA | MACD แดงเริ่มแบน | เทรนด์ลงต่อเนื่อง แต่จังหวะเริ่มช้าลง |
| 1H | Sideway | แกว่งแคบ ๆ ใกล้ EMA สั้น | MACD หดตัว, RSI กลาง ๆ | พักตัว รอข่าวหรือแรงใหม่เข้าตลาด |
3. แนวรับ–แนวต้านสำคัญ และ Pivot Zone
การวางแผนที่ดีต้องอาศัยการมองแนวรับแนวต้านให้ขาด จากการดู Swing ล่าสุดและรวมเสียงตลาดจากนักวิเคราะห์สายเทคนิคหลายสำนัก เราสามารถกำหนดโซนสำคัญที่ใช้ในการวางแผนได้ (ใช้เลขกลม ๆ เพื่อให้จำง่าย):
| ชั้น | ประเภท | โซนราคาโดยประมาณ | ความหมาย |
| S1 | แนวรับใกล้ตัว | 82,000–82,500 | ฐาน Sideway ระยะสั้น ถ้าหลุดลงไป มักจะวิ่งต่อได้อีก |
| S2 | แนวรับใหญ่ | 80,000–81,000 | Low สำคัญรอบล่าสุด เป็นจุดที่คนจับตาเยอะ ถ้าจะมีการเด้งแรง มักเกิดแถวนี้ |
| S3 | แนวรับเชิงลึก | 75,000–74,000 | โซนที่เป็นเป้าหมายถัดไปของขาลง ถ้าตลาดเกิด Panic ขายหนัก ๆ |
| R1 | แนวต้านใกล้ตัว | 85,500–86,000 | เส้นหลังคาระยะสั้น ราคาเด้งชนบ่อยใน 1H/4H ต้องผ่านให้ได้ก่อน |
| R2 | แนวต้านหลัก | 90,000–92,000 | ฐานเดิมสำคัญก่อนจะหลุด ถ้ากลับไปยืนเหนือโซนนี้ได้ เทรนด์ลงจะอ่อนแรงทันที |
| R3 | แนวต้านใหญ่ | 100,000–103,000 | โซนศูนย์กลางระยะกลาง ถ้าทะลุและยืนได้อีกครั้ง เกมจะกลับมาเป็นของสายกระทิงเต็มตัว |
Pivot Zone (โซนสมดุล) ใกล้ ๆ ตอนนี้:
- ช่วง 83,500–85,500 คือโซนที่ราคาชอบมาพักตัว
- ถ้าราคาโดดขึ้นไปยืนเหนือฝั่งบนของโซนนี้ได้ มีลุ้นไปชน R1 และ R2
- ถ้าหลุดลงไปใต้ 83,000 โอกาสที่จะกลับไปเทส S1, S2 จะเปิดกว้างทันที
4. ไอเดียจัดกรอบกลยุทธ์จากโซนเหล่านี้
1) เกมตามเทรนด์ (เน้นฝั่งลง)
- รอดูราคาดีดตัวกลับขึ้นไปเข้าใกล้ R1 หรือ R2 แล้วสังเกตสัญญาณกลับตัว เช่น แท่งเทียนที่แสดงอาการโดนกด (Upper Shadow ยาว) หรือ Pattern กลับตัวใน TF สั้น
- ถ้าสัญญาณเข้าทาง ให้ใช้เป็นจุด “เข้าฝั่งลง” ตามเทรนด์ใหญ่
- วางเป้าหมายทำกำไรแรกที่โซนกลาง (Pivot) และเป้าลึกถัดไปที่ S1/S2
- จุดตัดขาดทุนต้องวางให้สูงเหนือแนวต้านพอสมควร ป้องกันการโดนไส้เหวี่ยงกิน
2) เกมเด้งรีบาวด์สั้นจากโซนล่าง
- โฟกัสโซน S2 (80,000–81,000) เป็นหลัก ถ้าราคาลงมาทดสอบแล้วมีวอลุ่มหนุนให้เกิดสัญญาณกลับตัว
- สำคัญมาก: ต้องใช้ขนาดสัญญาที่เล็กกว่าปกติ เพราะถือว่าเป็นการ “สวนเทรนด์ใหญ่”
- ตั้งเป้าหมายออกเร็ว ๆ แถว Pivot หรือ R1 ไม่ต้องหวังกำไรยาวมาก
- ถ้าราคาไม่เด้งและทะลุลงลึกกว่า S2 โดยปิดแท่ง TF ใหญ่ต่ำกว่า ควรยอมคัทเพื่อรักษาวินัย ไม่ควรฝืนถือยาวเด็ดขาด
3) สายลงทุนยาว / DCA
- มองภาพ 1–3 ปีขึ้นไป ไม่ต้องสนใจการเหวี่ยงรายวันมากนัก
- เปลี่ยนจากการรอเข้าจุดเดียวให้เป๊ะ มาเป็นการ แบ่งเงินเข้า (DCA) ในหลายไม้ กระจายโซน 80K / 75K / 70K เพื่อลดความเสี่ยงจากการเข้าผิดจังหวะ
- เน้นถือยาวและสนใจภาพรวมของ Macro Cycle ของ Bitcoin มากกว่าการแกว่งตัวระยะสั้น
ไม่ว่าจะเล่นสไตล์ไหน สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ กำหนด “เงินที่พร้อมจะเสีย” (Stop Loss) ก่อนทุกครั้ง แล้วค่อยกดเปิดสถานะ เพราะการรักษาเงินทุน คือสิ่งแรกที่จะทำให้คุณอยู่รอดในตลาดนี้ได้
5. ข่าวเศรษฐกิจสหรัฐ สงคราม และผลต่อ BTC แบบเข้าใจง่าย
ตลาดคริปโตผูกติดกับ Sentiment ของตลาดการเงินโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ ช่วงนี้มี 3 เรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin โดยตรง:
- ความไม่ชัดเจนเรื่องดอกเบี้ยของ Fed:
- ตลาดไม่รู้ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยเมื่อไหร่ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจและลดความเสี่ยงในสินทรัพย์เสี่ยงลง
- เมื่อดอกเบี้ยยังสูง นักลงทุนรายใหญ่จึงเลือกให้เงินไหลไปฝั่งพันธบัตรหรือเงินฝากที่ปลอดภัยและให้ผลตอบแทนดีกว่าการถือคริปโต
- สถานการณ์สงครามหลายจุด:
- ทั้งยูเครน–รัสเซีย และตะวันออกกลาง ยิ่งลากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์
- นักลงทุนรายใหญ่บางส่วนจึงเลือกถือเงินสด, ทองคำ หรือสินทรัพย์ปลอดภัยที่ผ่านการทดสอบมานานแล้วมากกว่าคริปโต
- เม็ดเงินจากกองทุนใหญ่ (ETF Flow):
- วันไหนมีข่าวว่า ETF หรือกองทุนสถาบันไหลออก (Outflow) หนัก ๆ ราคา BTC จะถูกแรงกดดันตามมา
- ตรงกันข้าม ถ้าวันไหนมีเม็ดเงินไหลเข้า (Inflow) เยอะ ราคาก็พร้อมดีดแรงเช่นกัน
สำหรับคนเทรดฝั่งไทย ให้จำช่วงเวลาที่ตัวเลขสำคัญของสหรัฐจะประกาศไว้คร่าว ๆ คือ ประมาณ 20:30–22:00 น. (ตามเวลาไทย) เพราะเป็นช่วงที่กราฟมักเหวี่ยงแรงที่สุด ใครที่วางแผนจะเทรดช่วงนั้น ควรลดขนาดสัญญาและเตรียม Stop Loss ให้พร้อมรับมือกับความผันผวน
6. สรุปมุมมอง และ Mindset ที่ควรมี
- ภาพรวม BTC ยังอยู่ในรอบปรับฐานลง แต่เริ่มเข้าโซนที่โมเมนตัมการลงเริ่มล้า
- โซน 80,000–90,000 คือช่วงที่ตลาดกำลังตัดสินใจว่า “จะเด้งหรือจะดิ่งต่อ”
- เทรดเดอร์ระยะสั้นควรใช้ กรอบราคา + อินดี้เบสิค (EMA, MACD, RSI) เป็นตัวช่วยตัดสินใจ ไม่ใช่ใช้ความรู้สึกส่วนตัว
- สายลงทุนยาวควรโฟกัสที่ สัดส่วน BTC ในพอร์ต มากกว่าราคาเข้าจุดเดียว เน้นอยู่รอดและถือให้ไหวในรอบใหญ่
คำคมเล็ก ๆ ทิ้งท้ายไว้เตือนใจ:
“ไม่ต้องชนะทุกไม้ แค่แพ้แล้วไม่พังพอ
เพราะในเกมยาว คนที่ยังอยู่บนกระดาน คือคนที่มีโอกาสชนะเสมอ”
FAQ: คำถาม–คำตอบน่ารู้เกี่ยวกับ BTC รอบนี้
Q1: ถ้าตอนนี้ติดดอย BTC อยู่ควรทำยังไงดี?
A: อย่างแรกคือประเมินก่อนว่าคุณถือด้วยมุมมองระยะไหน ถ้าเป็นสายลงทุนยาว เชื่อใน Bitcoin อยู่แล้ว ให้ถามตัวเองว่าพอร์ตโดยรวมยังไหวไหม ถ้าไม่เกินความเสี่ยงที่รับได้ อาจแค่ปรับแผน DCA ให้เหมาะกับเงินสดที่เหลือ เพื่อลดต้นทุนเฉลี่ยลง แต่ถ้าใช้เลเวอเรจหนักหรือติดดอยด้วยเงินที่จำเป็นต้องใช้ในระยะสั้น การยอมคัทบางส่วนเพื่อให้พอร์ต “อยู่รอดได้” สำคัญกว่าการรอให้กลับมาที่เดิมแบบไม่มีกำหนด การรักษาวินัยสำคัญกว่าการรอความหวังครับ
Q2: ถ้าอยากเล่นสั้น BTC ดูอินดิเคเตอร์ตัวไหนดีที่สุด?
A: สำหรับมือใหม่ แนะนำให้โฟกัสแค่ไม่กี่ตัวก็พอ เช่น EMA สั้น–กลาง เพื่อดูแนวโน้มหลัก, MACD เพื่อดูโมเมนตัมของราคา และ RSI เพื่อประเมินว่าราคาอยู่ในโซนที่ล้าหรือยัง อย่าลืมดูโครงสร้างแท่งเทียนและแนวรับแนวต้านร่วมด้วย อินดิเคเตอร์เยอะเกินไปจะทำให้สับสนและตัดสินใจยากกว่าเดิมครับ
Q3: ทำไมโซน 80K–90K ถึงสำคัญกับรอบนี้?
A: เพราะเป็นโซนที่รวมทั้งแนวรับสำคัญ (80,000–81,000), แนวต้านหลัก (90,000–92,000) และกรอบแกว่งตัวส่วนใหญ่ในช่วงหลัง ถ้าราคายืนเหนือ 90,000 ได้ เทรนด์ลงรอบนี้จะเริ่มอ่อนแรง และอาจกลับตัวได้ แต่ถ้าหลุดลึกใต้ 80,000 แบบมีวอลุ่มหนา ๆ ภาพจะกลับเข้าสู่โหมด Panic ขายง่ายมาก และเปิดทางลงหาโซน 75,000 หรือต่ำกว่านั้นได้เลยครับ

Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.